วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

รีวิวท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น เมืองโตเกียว ไปกับเราโซไซตี้ ทราเวล

ถ้าใครติดตามบล๊อคอยู่ กระทู้ที่ผ่านมาเรามารีวิวทัวร์ญี่ปุ่น เมืองฟุคุโอกะ
ครั้งนี้เราจะมารีวิว ทัวร์ญี่ปุ่น เมืองโตเกียว ไปกันเลยจร้าา


 เก็บกระเป๋าพร้อมตะลุยญี่ปุ่น ครั้งนี้ไปกับ น้องสาว 2 คน 
บินด้วยสายการบินไทย แอร์เอเซีย เอ็กซ์ 
เดินทางวันที่ 19-24 พฤษภาคม 2560

นัดหมายที่สนามบินเวลา 08.00 น. ออกเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่นเวลา 11.15 น. 
ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง เราถึงญี่ปุ่น สนามบินนาริตะ เวลา 19.40 น. 
ซึ่งเวลาจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมงนะคะ


วันแรกเราพักผ่อนที่นาริตะ 1 คืน ตรงข้ามโรงแรมเราโชคดีหน่อยมีร้านอาหาร 
เลยไปเดินสำรวจกัน  ในที่สุดก็เลือกได้ ทานร้านนี้คะ อาหารก็จะมาเป็นเซต 
สังเกตดูคนญี่ปุ่นจะทานอาหารแบบเซตเมนูของใครของมันคะ 
ราคาอาหารก็จะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท 



มาที่นี่ มีอะไรน่าเที่ยว ไปไหนบ้าง มาดูรีวิวกันคะ

วันที่สองของการเดินทาง : วัดนาริตะซัง เป็นวัดพุทธเก่าแก่ และ มีชื่อเสียงมากของเมืองนาริตะ
ก่อนเข้าวัดเราจะเห็นบ่อน้ำอยู่ด้านหน้าแทบจะทุกวัน เค้ามีไว้ทำอะไร 

ธรรมเนียมของคนญี่ปุ่น ก่อนเข้าวัดต้องชำระร่างกายให้สะอาด
**ตักน้ำจากบ่อขึ้นมา. แบ่งน้ำในกระบวยออกเป็น 4 ส่วน
1 ล้างมือข้างที่ไม่ได้จับ
2 เปลี่ยนล้างอีกข้าง
3 ล้างปาก
4 ล้างกระบวย

**หมายเหตุ** ไม่พอตักใหม่ได้นะคะ^^

เสร็จ เดินเข้าวัดได้




เก็บบรรยากาศสวยๆ ระหว่างทางนั่งรถไปภูเขาไฟฟูจิมาฝากคะ 




มื้อกลางวันของวันนี้ เรามาทานอุด้งกันคะ


หลังจากทานอาหารเรียบร้อย เราก็เตรียมตัวขึ้นไปชมภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 คะ
"ภูเขาไฟฟูจิ" ถือว่าเป็นภูเขาไฟที่สวยที่สุด และ มีความศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
เราโชคดีมากคะ ที่วันนี้ฟ้าเปิด มองเห็นภูเขาไฟฟูจิ บางทีถ้าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย 
หรือ เส้นทางภูเขาปิด ก็จะไม่สามารถขึ้นไปชมได้นะคะ ถ้าไปกับทัวร์ ทางบริษัทก็จะมีระบุไว้ชัดเจนคะ





หมู่บ้านโอชิโนะฮักไค หรือ หมู่บ้านน้ำใส เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ 
มีบ่อน้ำทั้งหมด 8 บ่อ บ่อน้ำมีขนาดลึกมาก แต่น้ำก็ยังใส มองเห็นตัวปลาแหวกว่ายอยู่ในบ่อ





หลังจากนั้นเราเข้าสู่ที่พักที่ FUJI PREMIUM RESORT โรงแรมที่นี้มองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิ 
มีน้ำแร่ออนเซ็นด้วยนะคะ

เมนูพิเศษ!! ของมื้อเย็นวันนี้ ขาปูยักษ์ เป็นแบบฟุตเฟ่ต์ ทานได้ไม่อั้นเลยคะ



พอตอนเช้าเราก็รับประทานอาหารที่โรงแรมนะคะ วิวสวยคะ ส่วนอาหารก็มีหลายหลาย 
แล้วแต่ว่าใครจะเลือกทานอะไรก็ตามใจชอบเลยคะ



วันที่สามของการเดินทาง : เดินทางไปเมืองโยโกฮาม่า เมืองที่ใหญ่อันดับ 2 รองจากโตเกียว
เราไปชมพิพิธภัณฑ์ราเมน ที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราว และ ประวัติของราเมน 
วันนี้เราอิสระทานอาหารกลางที่นี่นะคะ ซึ่งนั่นก็คือ ต้องลิ้มรสราเมนต้นตำรับ 
ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีหลายๆ ร้าน  เลือกได้ตามต้องการเลยคะ



เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางต่อไปยังเมืองคามาคูระ ชม "หลวงพ่อโต" 
แห่งวัดโคโตคุอิน เป็นรูปหล่อโลหะที่สูงตั้งอยู่กลางลานวัดคะ 



เดินทางยัง กรุงโตเกียว มหานครของประเทศญี่ปุ่น เพื่อชม วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซนโซจิ 
วันที่เราไปมีเทศกาลที่วัด เราไปได้เข้าไปสักการะ องค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ 
แต่ก็ยังพอได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ คามินาริมง (ประตูฟ้าคำรณ)
และ โคมไฟสีแดง ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นโคมไฟที่ีใหญ่ที่สุดในโลก แต่โคมก็ไม่เต็มใบ แง แง
วันนี้มีงานเทศกาลเค้าพับโคมเก็บไว้ คนเยอะมากคะ




จากนั้นเราไปถ่ายรูปที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสุมิดะ ใกล้ๆ วัดอาซากุสะคะ 
ถ่ายรูปกับ โตเกียว สกาย ทรี โดยเป็นหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งใหม่ของกรุงโตเกียว



วันนี้เราพักที่ APA MAKUHARI HOTEL โรงแรมนี้จะใกล้กับห้างสรรพสินค้า และ เอาท์เลท 
เดินเล่นได้คะ มีสินค้า มีช้อปแบรนด์เนม อีกอย่างใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้า
เดินไปประมาณ 300 เมตร พรุ่งนี้เป็นวันฟรีเดย์ เราต้องเดินทางท่องเที่ยวเองแล้วนะคะ


วันที่สี่ของการเดินทาง : เราเดินทางเข้าเมืองโตเกียวไปช้อปปิ้งที่ชินจุกุคะ 
ส่วนใครจะไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ก็ได้เช่นกัน การเดินทางด้วยรถไฟที่นี่ ไปไม่ยากคะ 
มีแบ่งสาย และ สีอย่างชัดเจนมากคะ
ถ้าใครไม่แน่ใจก็ถามเจ้าหน้าที่ได้คะ เค้าตอบเป็นภาษาอังกฤษคะ 
เห็นข่าวแว่วๆ มาว่าต่อไปสถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นเค้าจะทำเครื่องออกบัตร ที่มีภาษาไทยให้แล้วนะคะ


อันนี้เป็นหน้าตาของบัตรโดยสารรถไฟในญี่ปุ่นคะ


ไปคะ ตะลุยช้อปปิ้งที่ชินจุกุ คนไทยนิยมมากเพื่อจะมาซื้อรองเท้าคะ แบรนด์ต่างๆ ซึ่งถูกกว่าไทย
เกือบครึ่งต่อครึ่ง หรืออาจจะราคาเท่ากัน อันนี้เราก็ไม่รู้นะ แต่บางรุ่น บางยี่ห้อที่ไทยไม่มีขาย 
แต่ที่นี่มีขายคะ ก็จะประมาณนั้น ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะดิดาส ไนกี้ ฯลฯ 
เราก็ไม่พลาดที่จะมาอยู่ช้อปนี้กับเค้าด้วยเหมือนกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า



วันที่ห้าของการเดินทาง : วันนี้นั่งรถเข้าโตเกียว ชมศาลเจ้าเมย์จิ 
ศาลเจ้าเมจิโตเกียว มีความเก่าแก่ คนญี่ปุ่นนิยมมาจัดงานแต่งงาน และ ที่สำคัญที่นี่มีเครื่องรางที่อยากแนะนำสำหรับคนโสด พกติดตัวไว้เสริมดวงเรื่องความรัก (ใครยังไม่มีเอาไปแกว่งๆ หาคุณสา)



จากนั้นมาเดินเล่นย่านฮาราจุกุ ที่นี่มีสถานนีรถไฟเก่าแก่ เป็นแหล่งที่วัยรุ่นญี่ปุ่นรู้จักกันดี 
ขายสินค้า เสื้อผ้าวัยรุ่น เสาร์-อาทิตย์ จะเห็นหนุ่มสางแต่งตัวคอสเพย์ออกมาเดินเล่น



จากนั้นเรามายังย่านชิบุย่า แหล่งช้อปปิ้งสตรีทที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว มีห้างสรรพสินค้า 
ที่รวมแฟชั่นมากมาย และ ที่พลาดไม่ได้ รูปปั้น "ฮาจิโกะ" หรือ เจ้าหมาแสนซื่อสัตย์ฮาจิ 
ที่เฝ้ารอเจ้านายที่สถานีชิบุย่า


5 แยกชิบุย่า กับคนนับหมื่นคนที่จะต้องมาข้ามถนนตรงนี้ โดยมีจุดหมายคนละทิศทาง ด้วยทิศทางที่ไขว้ไปมา และต้องใช้ความเร็วในการข้าม แต่ไม่มีการเดินชนกัน และ เป็นการถ่ายรูปที่ต้องรีบวิ่ง รีบถ่ายภายใน 2 นาที ระหว่างไฟเขียว เมื่อสัญญานไฟแดงทุกอย่างก็จะปกติ





หลังจากช้อปปิ้งที่ชิบุย่า สถานที่สุดท้ายเราก็ได้เวลาเดินกลับแล้วคะ เดินทางสู่สนามบินนาริตะ
ออกจากญี่ปุ่นเวลาประมาณ 2 ทุ่มนิดๆ คะ 


สุดท้ายนี้ เก็บรูปสวยๆ มาฝากเพิ่มเติมคะ







บ๊าย บาย เจอกันทริปหน้านะคะ ไว้รอติดตามว่าเราจะไปที่ไหนอีก ขอบคุณคะ


เขียนโดย : ninikiku
ภาพประกอบ โซไซตี้ ทราเวล
สามารถดูข้อมูล หรือ สนใจโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่น ได้ที่ http://goo.gl/vAOnuQ

บริษัท โซไซตี้ ทราเวล จำกัด (Society Travel Co.,Ltd.)
ใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/07544
50/16 ซอยรามคำแหง 24/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Tel : 02-3478518 Fax : 02-3478520
Hotline : 098-356-1281, 098-356-1282
Email : info.societytravel@gmail.com
ID Line : @societytravel
Web Site : http://www.societytravel.co.th 
Facebook : https://www.facebook.com/societytravel